จอห์น เท็กซเตอร์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันยังคงมุ่งมั่นในการเป็นเจ้าของสโมสรใน พรีเมียร์ลีก ให้ได้ ภายหลังปฏิบัติการเข้าเทคโอเวอร์ เอฟเวอร์ตัน ล้มเหลวไปในช่วงที่ผ่านมา
เท็กซ์เตอร์ ตกเป็นข่าวในการเข้าซื้อกิจการสโมสร เอฟเวอร์ตัน มาตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ท้ายสุดแล้ว ฟาร์ฮัด โมชิรี่ ตัดสินใจตอบรับข้อสนอจากทาง แดน ฟรีดกิ้น เจ้าสัวเจ้าของทีม โรม่า ในเซเรีย อา
อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวดังกล่าวไม่สามารถหยุดยั้งความปราถนาของ เท็กซ์เตอร์ ในการเพิ่มสโมสรจาก พรีเมียร์ลีก เข้าไปในพอร์ตสโมสรของเขาที่ประกอบไปด้วย โบตาโฟโก้ สโมสรจากบราซิล, ลียง ยักษ์หลับแห่งลีกเอิง และ แอร์เวเด โมเลนเบค ทีมจากเบลเยี่ยม รวมไปถึง
นอกจากนี้เขายังมีหุ้นส่วนน้อยอยู่กับ คริสตัล พาเลซ ทีมจาก พรีเมียร์ลีก ด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้ มีรายงานว่า เท็กซ์เตอร์ เตรียมที่จะกลับมาร่วมลงทุนใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง โดยตั้งเป้าที่จะครอบครองสโมสรจากลีกสูงสุดอังกฤษให้สำเร็จ
ตามรายงานของ GOAL ระบุว่านักธุรกิจวัย 59 ปีสนใจที่จะเป็นเจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ลีก โดยเขาต้องการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่และควบคุมการตัดสินใจที่สำคัญของสโมสรเหล่านั้น
รายงานอ้างว่าในระหว่างการเสวนาที่การประชุมสุดยอด Ole Sports เท็กซ์เตอร์ ได้เผยว่า “เรากำลังหาสโมสรที่เราสามารถถือหุ้นใหญ่ได้”
นอกจากนี้ เพื่อที่จะทำเรื่องดังกล่าวได้ เท็กซ์เตอร์ เตรียมที่จะขายหุ้น 46% ของเขาใน คริสตัล พาเลซ เพื่อมุ่งโฟกัสไปที่ทีมใหม่ของเขาในเกาะอังกฤษได้อย่างเต็มที่
ไม่เพียงแต่สโมสรใน พรีเมียร์ลีก เท่านั้น เท็กซ์เตอร์ ยังคงเปิดกว้างสำหรับสโมสรในศึก แชมเปี้ยนชิพ ที่มีเขามองว่ามีศักยภาพดีพอจะเลื่อนช้นสู่ลีกสูงสุดได้ในอนาคต
“เรายังเปิดกว้างสำหรับสโมสรดิวิชั่น 2 ที่เราคิดว่าสามารถเลื่อนตำแหน่งได้” นักธุรกิจรายนี้กล่าวเสริม