อังกฤษ
กุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะพลาดใช้งาน มาร์ค เกฮี เซนเตอร์แบ็กที่โชว์ฟอร์มได้คงเส้นคงวาที่สุดตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์ในเกมนี้ เนื่องจากติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบกำหนด
จากการขาด เกฮี ทำให้มีรายงานว่า เซาธ์เกต อาจเปลี่ยนไปใช้ระบบสามเซนเตอร์แบ็ก หลังมีการซ้อมหลากหลายรูปแบบ และระบบดังกล่าวก็ถูกฝึกอย่างเข้มข้นในสัปดาห์นี้ โดย เอซรี่ คอนซ่า เป็นตัวเต็งที่จะได้ลงเล่นแทน
แม้จะกลับมาซ้อมได้อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ก่อนรอบน็อคเอาต์แล้ว ทว่า ลุค ชอว์ ก็ยังไม่ได้ลงสนามเลยสักนาที ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ คีแรน ทริปเปียร์ และ บูคาโย่ ซาก้า จะเล่นวิงแบ็กสองฝั่ง และใช้ ฟิล โฟเด้น กับ จู๊ด เบลลิงแฮม ในบทบาทเบอร์ 10 คู่ อยู่หลัง แฮร์รี่ เคน
สวิตเซอร์แลนด์
เทรนเนอร์ มูรัต ยาคิน จะสามารถใช้งาน กรานิต ชาคา ได้ไม่มีปัญหา แม้จะมีความกังวลกับอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา แต่จากการสแกนไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติร้ายแรง
ยาคิน มีทีมที่ฟิตสมบูรณ์ และมีโอกาสที่จะเลือกทีมชุดเดิมจากรอบก่อนที่ล้ม อิตาลี แชมป์เก่ามาได้ แต่หากจะมีการเปลี่ยนแปลง ซิลวาน วิดแมร์ อาจกลับมาทวงตัวจริงทางฝั่งขวาหลังพ้นโทษแบนกลับมาแล้ว
ทางออกนั้นก็คือขยับ แดน เอ็นดอย ที่เล่นวิงแบ็กขวาในเกมล่าสุดกลับไปยืนตัวรุกแทน ฟาเบียน รีเดอร์ ที่ได้ลงตัวจริงในนัดที่แล้ว
11 นักเตะตามคาด
อังกฤษ (3-4-2-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, เอซรี่ คอนซ่า – คีแรน ทริปเปียร์, ค็อบบี้ เมนู, เดแคลน ไรซ์, บูคาโย่ ซาก้า – ฟิล โฟเด้น, จู๊ด เบลลิงแฮม – แฮร์รี่ เคน
สวิตเซอร์แลนด์ (3-4-2-1) : ยานน์ ซอมเมอร์ – ฟาเบียน แชร์, มานูเอล อคานจี, ริคาร์โด้ โรดริเกซ – แดน เอ็นดอย, เรโม ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาคา, มิเชล เอบิสเชอร์ – ฟาเบียน รีเดอร์, รูเบน วาร์กาส – บรีล เอ็มโบโล่
ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)
สนาม : ดุสเซลดอร์ฟ อารีน่า
แม้ อังกฤษ จะมีผู้เล่นที่ชื่อชั้นเหนือกว่าแทบทุกตำแหน่ง แต่ถ้าเทียบกับความลงตัวการเล่นแล้วต้องยอมรับว่า สวิตเซอร์แลนด์ ดูดีกว่าเยอะเลย กับราคาที่เปิดมาให้ทัพ สิงโตคำราม เป็นต่อแบบนี้ สวนรอง สวิตเซอร์แลนด์ ไปดีกว่า ไม่น่าแพ้ในเวลา 90 นาที
ผลที่คาด : อังกฤษ เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา ดูบอลสด