
อังกฤษ
โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือใหม่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเรียก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์ตัวเก๋ากลับมาติดทีมอีกครั้ง รวมถึงการติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกของ แดน เบิร์น กองหลังฮีโร่จากนัดชิงคาราบาว คัพ ของ นิวคาสเซิ่ล ด้วย
ในที่สุด โคล พาลเมอร์ ก็ต้องถอนตัวออกไปแล้วหลังไม่ได้ซ้อมกับทีมเมื่อวันอังคารเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับมาตั้งแต่ก่อนเกมกับ อาร์เซน่อล เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว โดย มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ถูกเรียกตัวเข้ามาเสริมเพิ่มเติม
นายใหญ่ชาวเยอรมันเตรียมที่จะให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด เฝ้าเสา และยืนยันว่า แฮร์รี่ เคน จะรับหน้าที่กัปตันทีมเหมือนเดิม
แอลเบเนีย
ซิลวินโญ่ เทรนเนอร์ชาวบราซิล จะมี เบรัต ชิมซิตี้ กองหลังกัปตันทีมจาก อตาลันต้า ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ผู้เล่นที่ค้าแข้งในอิตาลีในรายชื่อ 26 คน
เอลเซอิด ฮีซาย กองหลังมากประสบการณ์ของ ลาซิโอ ยังคงบาดเจ็บและต้องพักรักษาตัว เช่นดียวกับ มาริโอ มิไต จาก อัล อิตติฮัด ที่เพิ่งจะเข้ารับการผ่าตัดโคนขาหนีบ
กองหน้าตัวเลือกแรกอย่าง อาร์มันโด้ โบรย่า และ เรย์ มาไน ซึ่งเล่นไม่ได้เมื่อช่วงทีมชาติเดือนพฤศจิกายน ต่างกลับมามีชื่อสำหรับเบรกทีมชาติรอบนี้ และจะแย่งตำแหน่งตัวจริงกันเอง
11 ตัวจริงตามคาด
อังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – รีซ เจมส์, เอซรี่ คอนซ่า, มาร์ค เกฮี, ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เดแคลน ไรซ์ – ฟิล โฟเด้น, จู๊ด เบลลิงแฮม, มาร์คัส แรชฟอร์ด – แฮร์รี่ เคน
แอลเบเนีย (4-2-3-1) : โธมัส สตราโคช่า – อีวาน บัลลิยู, อาร์เดียน อิสไมลี่, เบรัต ชิมซิตี้, นาเซอร์ อาลิจี – คริสเตียน อัสลานี่, อิลเบอร์ รามาดานี่ – ยาซีร์ อาซานี่, เนดิม ไบรามี่, เออร์เนสต์ มูชี่ – เรย์ มาไน
ผู้ตัดสิน : อเลฆานโดร เอร์นานเดซ (สเปน)

อังกฤษ จะเริ่มยุคใหม่อย่างเป็นทางการในเกมนี้ แน่นอนว่าเล่นที่เวมบลีย์ด้วยยิ่งจะต้องใส่ทะลุขีดจำกัดเพื่อเอาใจแฟนๆ ด้วย มาตรฐานฟุตบอลก็เหนือกว่า แอลเบเนีย ทุกจุดอยู่แล้ว แม้ราคาที่เปิดมาจากแพงไปหน่อย แต่เชื่อว่า สิงโตคำราม มีดีพอจะชนะแบบสกอร์ขาดได้ ลุ้นเม็ดเข้าวินไปดีกว่า
ผลที่คาด
อังกฤษ ชนะ แอลเบเนีย 3-0